วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เครือข่ายผู้หญิงเพื่อความก้าวหน้าและสันติภาพยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี










จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ฯพณฯ อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ
เรื่องข้อเสนอแนะกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชาโดยเครือข่ายผู้หญิงฯ
๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔

สืบเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยและกัมพูชากรณีพื้นที่ชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร จ. ศรีสะเกษ และที่บริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์และชายแดนจ.บุรีรัมย์ ที่ได้ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่กุมภาพันธ์  ๒๕๕๔ ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ  มีผู้ที่สูญเสียชีวิต บาดเจ็บ จำนวนมาก คนชรา เด็ก และผู้หญิงต้องอพยพจากหมู่บ้านและที่พักอาศัย เพื่อหลบหนีภัยจากอาวุธสงครามที่ทั้งสองฝ่ายตอบโต้กัน   ประชาชนกว่า ๔๐, ๐๐๐ ชีวิต ต้องตกอยู่ในสภาวะยากลำบากไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ได้ก่อให้เกิดความสะเทือนใจแก่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกเป็นอย่างยิ่ง 
                           
เครือข่ายผู้หญิงเพื่อความก้าวหน้าและสันติภาพ ซึ่งประกอบด้วยองค์กรผู้หญิงจากทุกภูมิภาคของประเทศไทย มีความห่วงใยในชีวิตของประชาชนทั้งสองฝ่ายที่ต้องพลัดที่อยู่ บาดเจ็บ และสูญเสียชีวิต  อันสืบเนื่องมาจากความขัดแย้งจากกรณีพิพาทบริเวณชายแดนดังกล่าว  ทั้งที่ประชาชนทั้งสองฝ่ายเคยถ้อยทีถ้อยอาศัยและอยู่อย่างปกติสุขมายาวนาน จึงขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการโดยเร่งด่วน ดังนี้
                -ยุติการใช้อาวุธสงครามทันทีโดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ
                -ยุติการใช้เขาพระวิหารเป็นเงื่อนไข เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองภายในของแต่ละฝ่าย               
-ใช้แนวทางแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี โดยเคารพในสิทธิมนุษยชนที่ประชาชนทั้งสองประเทศจะต้องได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  ตามพันธสัญญาของกติการะหว่างประเทศขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และกฎบัตรอาเซียนที่เน้นถึงการอยู่ร่วมเป็นประชาคมอาเซียนอย่างมีสันติภาพและความสงบสุข
                -สร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม รวมถึงกลุ่มผู้หญิง โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความขัดแย้งตามมติขององค์การสหประชาชาติที่ ๑๓๒๕ (UN Resolution No ๑๓๒๕) โดยรับฟังเสียงสะท้อนและความต้องการของประชาชนและกลุ่มผู้หญิง ตลอดจนให้การเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้น
-ยื่นเรื่องให้ UNESCO ยืดเวลาการพิจารณาเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เพื่อลดทอนบรรยากาศความขัดแย้งและตึงเครียดของทั้งสองฝ่าย

เครือข่ายผู้หญิงเพื่อความก้าวหน้า  หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ฯพณฯ จะเร่งดำเนินการตามข้อเสนอข้างต้น เพื่อให้เกิดสันติภาพและสันติสุขแก่ประชาชนทั้งสองประเทศและในประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืนสืบไป 

ขอแสดงความนับถือ
เครือข่ายผู้หญิงเพื่อความก้าวหน้าและสันติภาพ
        
รายชื่อเครือข่ายผู้หญิงเพื่อความก้าวหน้าและสันติภาพ
มูลนิธิผู้หญิง
กลุ่มหญิงสู้ชีวิต
มูลนิธิเพื่อนหญิง
มูลนิธิพิทักษ์สตรี
มูลนิธิศูนย์ธารทิพย์
สมาคมสตรีตาบอด
กลุ่มผู้หญิงอันดามัน
เครือข่ายสตรีภาคใต้
องค์การคนพิการสากล
กลุ่มแรงงานทำงานบ้าน
เครือข่ายภาคประชาชนกรุงเทพฯ
เครือข่ายผู้ด้อยโอกาสชุมชนเมือง
เครือข่ายประชาชนเขตภาษีเจริญ
กลุ่มแรงงานนอกระบบหนองจอก
สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาสิทธิผู้หญิง
สมาคมเพื่อความก้าวหน้าคนตาบอด
เครือข่ายสตรีชนเผ่าแห่งประเทศไทย
มูลนิธิเสริมสร้างศักยภาพเด็กและเยาวชน
สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย
มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย
มูลนิธิแอ็คชั่นเอด อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.)
ศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กเครือข่ายแม่หญิงล้านนา เชียงใหม่
เครือข่ายวิจัยและรณรงค์เพื่อสตรี มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม
ศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี มูลนิธิเสริมสร้างศักยภาพเด็กและเยาวชน
คณะทำงานวาระทางสังคม  สถาบันวิจัยสังคม  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
ชมรมอาสาสมัครกฎมายเพื่อผู้หญิง ศูนย์สตรีศึกษา  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กลุ่มด้วยใจ กลุ่มครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนใต้

Open Letter to Prime Minister from Women Network for Advancement and Peace (WNAP)

 
















May 4, 2011


Dear Prime Minister Abhisit Vejjajiva,

In accordance to the longstanding dispute between Thai-Cambodia over the boarder land area of Preah Vihear Temple, the area of unrest has recently been expanded its perimeter to Surin Province covering important sites such as Ta Muen Thom and Ta Kwai Temples and to Buriram Province. The degree of violence has continued to increase constantly since early February of 2011, affecting many lives of both Thais and Cambodians living along the border in despair. It is reported that a large number of people from both sides have lost their lives and are severely injured, especially the vulnerable targets like the senior citizens, young children and women. These people face constant evacuation by the arm fightings that impede their security, stability, health and most importantly their rights to safety. In the recent event in late April this year more than 40,000 local evacuees are trapped in constant fear and difficulties and unable to pursue their normal lives that they are entitled to. The ASEAN members and the rest of the world have been moved and have great concerns for the very issue.

Women Network for Advancement and Peace (WNAP) which consists of women organizations from all regions of Thailand feel apprehensively for those affected, injured and dead from both sides by the clashes over the boarder land dispute despite their good relationship that enable them to together living in peace for a long time. We, thus, demand that actions should be taken immediately to protect those living along both the border of Thai and Cambodian.

Propositions are as follows:
- Cease fire should be applied immediately.

- Both sides should stop applying the Preah Vihear Temple as a condition to seek benefit for their internally political affairs.

- Conflicts should be resolved by peace approach. Human rights of citizens of the two nations should be respected especially their rights to live, safety and protection of their belongings and sanctuary in accordance with the UN International Covenant on Civil and Political Rights and the ASEAN Charter that emphasizes peace and harmony among ASEAN Community.

- Participation of civil society including women groups especially those living along the border who are directly affected by the unrest should be encouraged and supported. Inconformity with the UN Resolution No. 1325, the states are to recognized the voices of the people especially women and respond to those seek help and protection.
Women Network for Advancement and Peace (WNAP) anticipates that the Prime Minister will put forth on the consideration of these propositions recommended as a response to the peace resolution for the great benefit of peace, harmony and stability between the two countries and among the ASEAN community.


Yours Sincerely,

Women Network for Advancement and Peace (WNAP)